(<$BlogItemCommentCount$>) comments <$BlogRSDUrl$>

วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 03, 2547

corruption of mind

มติชนรายวัน วันที่ 03 มิถุนายน พ.ศ. 2547 ปีที่ 27 ฉบับที่ 9582

เมื่อเดือนที่แล้วผมได้ไปร่วมงานประจำปีขององค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย(Transparency Thailand) ที่มี ดร.จุรี วิจิตวาทการ เป็นเลขาธิการหัวแรงสำคัญ ในงานนี้มีการมอบเหรียญรางวัลของ The Kuala Lumpur Society for Transparency and Integrity แก่ ฯพณฯ อานันท์ ปันยารชุน โดยตุนกู อับดุล อาซิส ตุนกู อิบราฮิม (ก่อนหน้านี้เคยมอบให้ 2 คนเท่านั้น คือนายลี กวน ยู และนายโกคุน นายกเทศมนตรีกรุงโซล ซึ่งปัจจุบันคือนายกรัฐมนตรีของเกาหลีใต้) ซึ่งนับว่าเป็นเกียรติแก่ประเทศไทย

ในการบรรยายเรื่องความโปร่งใส หลังการรับรางวัลอันมีเกียรติยิ่งนี้แล้ว คุณอานันท์ ปันยารชุน ได้เอ่ยถึงคำหนึ่ง คือ corruption of the mind ว่าเป็นภัยร้ายแรงอย่างยิ่งของสังคม ผมได้นำมาขบคิดและขอขยายความต่อดังนี้

ก่อนหาคำตอบว่า corruption of the mind คืออะไร ลองดูคำถามต่อไปนี้ (ก) ใครๆ ก็คอร์รัปชั่นด้วยกันทั้งนั้นเพียงแต่ไม่ถูกจับได้ (ข) คนสมัยใหม่จะเอาตัวไม่รอด ถ้ามัวแต่ซื่อสัตย์ (ค) คนซื่อสัตย์มากเกินไปก็ถูกคนอื่นเอาเปรียบ (ง) โกงได้บ้างแต่ต้องมีผลงานและทำประโยชน์ให้สังคม (จ) การกินตามน้ำเป็นเรื่องธรรมดาไม่มีอะไรเสียหาย

ใครที่เห็นชอบกับข้อความข้างต้นนี้ในความเห็นของผม สภาวการณ์ corruption of the mind ได้เกิดขึ้นแล้วกับบุคคลผู้นั้น เพราะจิตใจยอมรับความไม่ถูกต้องโดยหารู้ตัวไม่ว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผิด

จิตใจที่อยู่ในสภาพเห็นกงจักรข้างต้นเป็นดอกบัวก็คือ corruption of the mind กล่าวคือมองไม่เห็นว่าอะไรคือสิ่งที่ผิดและอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง โดยอาจเนื่องมาจากความชาชินกับการทุจริตคอร์รัปชั่น ความโลภ การได้รับการสั่งสอนที่ผิด ความท้อแท้กับปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ฯลฯ

เข็มทิศทางศีลธรรม(moral compass) ซึ่งเป็นสิ่งชี้แก่บุคคลว่าสิ่งใดผิดสิ่งใดถูกจะชำรุดเมื่อถูกครอบงำโดย พลังจาก corruption of the mind

corruption of the mind จะทำให้เกิดการยอมรับและยอมทนสภาพของการกระทำที่ไม่ถูกต้อง ผิดศีลธรรมและทำนองครองธรรม เพราะเห็นว่าสิ่งเหล่านี้มิใช่สิ่งชั่วร้าย

นักปราชญ์บอกว่าสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของการกระทำความชั่ว ก็คือการยอมรับว่าความชั่วเป็นเรื่องธรรมดา มีความชื่นชมคนเลวโดยหาเหตุผลอื่นมาหักล้าง หรือชื่นชมคนชั่วมากขึ้น ซึ่งการมีความคิดเช่นนี้ก็คือสภาวการณ์ corruption of the mind โดยแท้

ลองจินตนาการดูว่าถ้าคนไทยอยู่ภายใต้สภาวการณ์ corruption of the mind กันทั้งประเทศแล้วอะไรจะเกิดขึ้น

ความผิดก็จะกลายเป็นความถูก ความชั่วก็จะกลายเป็นความดี คนชั่วก็จะกลายเป็น คนดี การทุจริตคอร์รัปชั่นก็จะเป็นเรื่องปกติ การหักหลังทรยศเป็นเรื่องธรรมดา อกตัญญูคือเรื่องปกติ ฯลฯ สังคมไทยจะน่าอยู่เพียงใด และเราจะอยู่กันดีมีสุขได้อย่างไร

"corruption of the mind" นั้นร้ายแรง เพราะจะทำให้การทุจริตคอร์รัปชั่นเฟื่องฟูเพราะจะมีบุคคลจำนวนมากที่พร้อมเสมอต่อการกระทำทุจริตคอร์รัปชั่น นอกจากนี้ก็ไม่มีใครสนใจที่จะแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นอีกด้วย เพราะเห็นว่าไม่ใช่ปัญหา เปรียบเสมือนกับคนเป็นโรคมะเร็งร้าย แต่มองเห็นว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ต้องรักษาหรือแก้ไข จึงต้องตายภายในระยะเวลาไม่นาน

corruption of the mind เป็นเชื้อไฟของการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นควันไฟบังตาไม่ให้เห็นถูกเห็นผิด อีกทั้งยังบังตาคนอื่นๆ จนทำให้ไม่เห็นว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นสิ่งเลวร้ายที่ต้องแก้ไขอีกด้วย

ขอจบลงด้วยการประชาสัมพันธ์ผลงานหนึ่งขององค์กรเพื่อความโปร่งใสที่ผมเห็นว่าเข้าท่าเป็นอันมากนั่นก็คือ การผลิตนิทานชุดธรรมาภิบาล เพื่อสอนเด็กให้เข้าใจเรื่องของความถูกต้อง ซื่อสัตย์สุจริต น่าซื้อมาแจกเด็กทั้งชุดที่มี 5 เล่ม คือเรื่องการผจญภัยของฟ้าใส หีบเป็นเหตุ หมู่บ้าน แสนดี ด้วงยักษ์กินเมือง และแสงสว่างจากประภาคาร ทุกเรื่องสนุกและสร้างสรรค์ให้เด็ก ซึมซับและศรัทธาในความดีงาม มีจิตสำนึกสาธารณะ

เข้าใจว่าเป็นนิทานสำหรับเด็กระดับปฐมวัยชุดแรกของสังคมไทยที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับหลักการของธรรมาภิบาล และการเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน

นิทานชุดนี้ร่วมกันจัดทำโดยคนรุ่นหนุ่มรุ่นสาวภายใต้คำแนะนำของที่ปรึกษาอาวุโสที่ศรัทธาในธรรมาภิบาลเช่น พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ดร.สมศักดิ์ ชูโต ดร.จุรี วิจิตวาทการ ดร.อัมมาร สยามวาลา ดร.จิราวรรณ ภักดีบุตร และคุณรัชนี มณีโรจน์

ท่านสามารถร่วมสร้างสรรค์ แก้ไข corruption of the mind ของสังคมเราได้โดยการเผยแพร่นิทานชุดนี้ ด้วยการสั่งซื้อนิทานทั้งชุดพร้อมค่าจัดส่งมอบเป็นของขวัญแก่ห้องสมุดของโรงเรียนต่างๆ ที่มีจำนวนกว่า 30,000 โรงเรียนทั่วประเทศ หรือจะซื้อให้ลูกหลานของตัวเองหรือของเพื่อนก็ได้ ติดต่อโทรศัพท์ 0-2377-7206 และ 0-2378-1284

ถ้าเราไม่ช่วยกันคนละไม้คนละมือตั้งแต่วันนี้ corruption of the mind จะยิ่งทำให้ความเท่าเทียมกันของสิทธิของบุคคลอันเป็นรากฐานสำคัญของสังคมจะยิ่งมีปัญหายิ่งขึ้น เพราะการทุจริตคอร์รัปชั่นลิดรอนสิทธิของคนและบ่อนเซาะสังคมของเราอย่างร้ายแรง


This page is powered by Blogger. Isn't yours?