<$BlogRSDUrl$>

วันอาทิตย์, กันยายน 26, 2547

ออน

สถานที่อาบอบนวดส่วนใหญ่

จะแบ่งออกเป็นสามส่วนส่วนแรกเปรียบเสมือนห้องรับแขกตกแต่งสวยงาม ที่ได้ระดับจริง ๆเหมือนกับล๊อบบี้ของโรงแรมชั้น ๆ เลยที่เดียวส่วนประกอบที่สำคัญคือตู้กระจกตู้นี้ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเป็นกระจกด้านเดียวหมอนวดมองไม่เห็นแขกซึ่งไม่เป็นความจริง ในตู้นี้จะมี "หมอนวด"แต่งตัวสวยงามนั่งรอให้แขกเลือก ส่วนใหญ่จะเป็นชุดวับ ๆ แวม ๆบางแห่งที่มีระดับหน่อย หมอนวดจะแต่งตัวมิดชิด คล้าย ๆ กับสาว ๆที่ทำงานอ๊อฟฟิส ใส่ถุงน่องรองเท้าเรียบร้อย ได้อามรณ์ไปอีกแบบเครื่องแต่งตัวของหมอนวดก็แล้วแต่สถานที่บางแห่งมีการเปลี่ยนไปตามเทศกาล เช่นช่วงหน้าร้อนจะกำหนดให้ หมอนวดทุกคนใส่ชุดว่ายน้ำหรือบางแห่งกำหนดให้หมอนวดใช่เฉพาะชุดชั้นในก็มีในตู้จะมีโทรทัศน์ไว้ให้หมอนวดดูแก้เซ็งขณะรอแขกการตั้งโทรทัศน์ไว้ในตู้นั้นมีอีกเหตุผลหนึ่งคือให้แขกได้เห็นอริยาบทต่าง ของหมอนวดจะสังเกตุได้ว่าหมอนวดที่ดูโทรทัศน์อยู่ในตู้จะหัวเราะได้ง่ายกว่าปกติโดยเฉพาะเมื่อมีแขกยืนอยู่หน้า>ตู้บริเวณหน้าตู้จะมีพนักงาน (มีทั้งหญิงและชายทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้าหรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า "คนเชียร์แขก เราสามารถสอบถามรายละเอียดเช่น ประเภทของบริการ และ ราคา เป็นต้นนอกจากนี้> > หากไม่แน่ใจในสายตาตัวเอง อาจถามเพิ่มเติมจากคนเชียร์ได้เช่นกันแต่ต้องเข้าใจว่าส่วนใหญ่แล้วคนเชียร์จะมีหมอนวดในสังกัดของตนเองและมักจะเชียร์เด็กในสังกัด>นั้น> >เป็นพิเศษทางทีดีให้เชื่อมั่นในตัวเองจะดีที่สุด หมอนวดที่นั่งในตู้จะมีเบอร์บางแห่งในตู้จะมีหมอนวดหลายประเภท เช่น ประเภทธรรมดา ประเภทดาราหรือประเภทบีคอส เป็นต้นเมื่อเลือกหมอนวดที่ถูกใจได้แล้วก็แจ้งเบอร์ต่อคนเชียร์แขกคนเชียร์แขกจะเป็นคนเรียกหมอนวดที่เราเลือกส่วนใหญ่จะใช้เครื่องขยายเสียงและจะเรียกเหมือน>กันหมดเช่น "เบอร์ 88 ทำงาน" มีบางแห่งที่พัฒนาไปมาก
การเรียกหมอนวดให้ทำงานจะใช้สัญญาลักษณ์มือโดยไม่จำเป็นต้องออกเสียงเลย
หลังจากนั้นคนเชียร์ก็จะพาแขกไปรับห้อง
ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเค้าเตอร์มีเจ้าหน้าที่คอยออกเวลาและเบอร์ห้อง
> > > จะเลือกจ่ายก่อน หรือ จ่ายทีหลังก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะจ่ายทีหลัง
> > > หมอนวดที่เลือกจะออกมาพบแขกบริเวณนี้
> > >> > > >ส่วนใหญ่จะกำหนดเป็นระเบียบให้หมอนวดไหว้แขกอข่างสุภาพเมื่อพบกันทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นขา>ประจำ> >หรือไม่ก็ตาม> > > เพราะถือว่าแขกคือผู้มีพระคุณ
> > > เมื่อหมอนวดรับใบเวลาและเบอร์ห้องแล้วก็จะพาแขกขึ้นห้อง
> > > อาจขึ้นลิฟท์หรือขั้นบันไดก็แล้วแต่สถานที่
> > >> > >> > > พอเข้าห้อง อย่าเพิ่งผลีผลามเพราะจะมีเด็กเสิรฟ์ตามมาติด ๆ> > > เพื่อสอบถามว่าต้องการดื่มอะไรหรือไม่> > > ขั้นตอนนี้เป็นเรื่องของแขกต้องแสดงน้ำใจ> > >ถามหมอนวนเสมอว่าน้องจะดื่มอะไร> > > ส่วนใหญ่ก็จะเป็น กาแฟเย็น ชาดำเย็น หรือน้ำมะนาว อะไร ๆ เทือกนี้> > > แต่แขกบางคนสั่งเบียร์ หรือกับแกล้มอื่น ๆ ก็ได้> > >> > > >ที่ต้องสังวรณ์ไว้เสมอคือเครื่องดื่มทุนชนิดจะมีราคาแพงกว่าปกติมาก> > > และจะต้องทิปให้เด็กเสิรฟ์ทุกครั้งเพราะเด็กพวกนี้ไม่มีเงินเดือน> > > เมื่อได้เครื่องดื่มหรือขณะรอเครื่องดื่มจะมีแม่บ้าน> > > หรือที่หมอนวดเรียกกันสั้น ๆ ว่า "แม่"> > > นำเอาอุปกรณ์อาบน้ำประจำตัวของหมอนวนคนนั้นมาให้ หมอนวดที่เก่ง ๆ> > > บางคนจะเริ่มจู่โจมแขกจากจุดนี้> > >> > > การจู่โจมของหมอนวดที่มีประสบการณ์สูง> > > ส่วนใหญ่จะสังเกตจากปฏิกิริยาของแขกว่าจะมาไม้ไหน >ส่วนใหญ่คือการกอด> > > การลูบไล้ร่างกายของแขก นั่งตัก การป้อนน้ำ การนอนบิดขี้เกียจ >บนเตียง> > >> > > >บางแห่งถือเป็นระเบียบว่าหมอนวดต้องทำหน้าที่ถอดถุงน่องรองเท้าให้กับแขกทุกราย> > > หรือบางคนใช้เทคนิคการถอดเสื้อผ้า> > > ถ้าอ่อนประสบการณ์หน่อยจะเป็นพวกที่รอให้แขกเป็นฝ่ายเริ่มรุก> > > คำถามยอดนิยมซึ่งใช้เปิดฉากการสนทนาคือ "มาคนเดียวหรือคะ" หรือ> > > "มาบ่อยไหมคะ ทำไมไม่เคยเห็น"> > >> > > >ช่วงนี้เป็นช่วงที่เรียกว่าช่วงโหมโรงอย่าหักโหมเดี๋ยวจะจอดป้ายเร็วกว่าที่ควรจะเป็น> > >> > > ขั้นตอนต่อไปคือการอาบน้ำ กรรมวิธีก็แตกต่างกันไป> > > ส่วนใหญ่หมอนวดจะเป็นคนเปิดหรือผสมน้ำในอ่าง >แต่บางแห่งเป็นหน้าที่ของ> > > "แม่บ้าน" >หมอนวดเป็นผู้ปรับอุณหภูมิของน้ำให้ได้ตามความต้องการของแขก> > > >อ่างน้ำมาตรฐานในห้องจะเป็นอ่างขนาดใหญ่ซึ่งสามารถอาบพร้อมกันได้สองคน> > > บางแห่งที่คุณภาพดี ๆ จะมีห้องที่เรียกว่าเพนท์เฮาส์ หรือห้องชุด> > > ประกอบด้วยห้องเล็ก 2-4 ห้อง> > >ห้องกลางเป็นสถานที่รับประทานอาหารหรือเหล้า> > > มีเด็กเสิร์ฟและบาร์เครื่องดื่มประจำห้อง> > >> > >> > > >มีโทรทัศน์ขนาดใหญ่ที่แขกสามารถสั่งเพลงคาราโอเกะเพื่อร้องกับหมอนวดหรือจะให้หมอนว>> > > ดร้องให้ฟังก็ได้ ถ้าไม่ชอบร้องเพลงจะดูรายการโทรทัศน์ หรือ> > > กดไปช่องวงจรปิดดูเด็กในตู้โดยจะดูภาพมุมกว้างเห็นทุกคนในตู้> > > หรือจะเลือกโหมดโคสอัพ ดูคนใดคนหนึ่ง ส่วนใดส่วนหนึ่งก็ได้> > > ส่วนกลางห้องจะเป็นอ่างจากุสซี่ขนาดใหญ่อาบพร้อม ๆ กันได้หลายคน> > > นอกจากนี้ยังมีตู้อบซาวน่าไว้บริการด้วย> > > การใช้บริการห้องแบบนี้เหมาะสำหรับพวกกระเป๋าหนัก> > > หรือนักธุรกิจเชิญลูกค้าไป "ปูเสื่อ" ต้องมีงบประมาณขั้นต่ำ >10,000> > > บาทขึ้นไปและต้องเรียกหมอนวดมาบริการอย่างน้อย 3 คน> > >> > >> > > กลับมาเรื่องห้องธรรมดา เมื่อเปิดน้ำเรียบร้อย >หมอนวดจะชวนแขกลงอ่าง> > > หลังจากทั้งคู่ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด หากเป็นการอาบแบบ "บีคอส"> > > จะมีอุปกรณ์เพิ่มคือแพยาง> > > บางแห่งจะมีที่คลุมผมแจกให้ด้วยเพื่อกันไม่ให้ผมเปียก >การอาบแบบบีคอส> > > หมอนวดจะใช้น้ำฝักบัวรดตัวแขกและตัวเองให้เปียกทั่วตัวเสียก่อน> > > แล้วให้แขกนอนหงายลงบนแพยาง จากนั้นก็จะใช้สบู่เหลวละเลงจนเกิดฟอง> > > แล้วจึงนอนทับลงไปบนตัวแขก ใช้อวัยวะสำคัญคือหน้าอก หน้าท้อง> > > และอวัยวะเพศของตัวเอง ลูบไล้ไปจนทั่วตัวแขก> > > แต่จะไม่ยอมให้ล่วงล้ำนอกจากแขกจะขวัญอ่อนน้ำแตกไปเสียก่อน> > > เมื่อละเลงด้านหน้าจนพอใจหรือเมื่อเห็นว่าแขกไม่เสร็จแน่ ๆ> > > ก็จะขอให้แขกนอนคว่ำและดำเนินการช้ำด้านหลังอีกรอบ> > >> > > >จากนั้นจึงขอให้แขกลงแช่ในอ่างแล้วหมอนวดก็จะตามลงไปโดยจะนั่งลงระหว่างขาทั้งสองข้างของ>แขก> >ในลักษณะนั่งคุกเข่าแล้วช้อนก้นของแขกขึ้นวางไว้บนตักของตัวหมอเอง> > > ลักษณะนี้ จะทำให้แขกอยู่ในสภาพการนอนแอ่น> > > และจะสร้างความตื่นตัวทางเพศให้กับพวกไก่อ่อนได้ไม่น้อย> > > หมอนวดจะเริ่มขั้นตอนด้วยการขัดขี้ไคล> > >โดยใช้มือขัดไปตามแขนทั้งสองข้าง> > > และหน้าอกของแขก จากนั้นก็จะลงสบู่แขนทั้งสองข้าง >หน้าอกและหน้าท้อง> > > และขาทั้งสองข้างในที่สุด> > >> > > ถึงตอนนี้> > >> > > >หมอนวดจะเริ่มปล่อยน้ำออกจากอ่างให้น้ำลดระดับลงเพื่อเริ่มขั้นตอนการทำความสะอาดอวัยวะเพศ>> >ของแขก> > > การทำความสะอาดอวัยวะเพศนี้เป็นเทคนิคเฉพาะตัว บางคนที่เก่ง ๆ> > > จะแถมการบีบกษัยให้กับแขกด้วย> > > แขกหลายคนที่สามารถผ่านด่านอรหันต์มาตกม้าตายเอาด่านนี้ก็มีเยอะ> > >> > > จากนั้น> > >> > >หมอนวดก็จะขอให้แขกลุกขึ้นนั่งหันหลังเพื่อขัดขี้ไคลและฟอกสบู่ด้านหลัง> > > ส่วนใหญ่จะถามแขกว่าจะสระผมหรือไม่ด้วย> > > ฟอกหลังเสร็จก็จะให้แขกยืนขึ้นเพื่อขัดขี้ไคลขาด้านหลัง ก้น> > > และล้างสบู่ให้จนหมดจด ถึงตอนนี้หมอจะถามแขกว่า "ฉี่ไหมคะ"> > > >ถ้าจะปวดก็ฉี่ลงอ่างไปเลยหมอนวดจะทำความสะอาดให้อีกครั้งเมื่อฉี่เสร็จ> > > แถมด้วยการรินน้ำยาบ้วนปากให้แขกบ้วนปากเป็นเสร็จพิธี> > >พาแขกขึ้นจากอ่างได้> > > หมอนวดจะเป็นผู้เช็ดตัวให้กับแขกหรือถ้าแขกจะเช็ดเองก็ไม่ขัดข้อง> > >> > > สถานอาบอบนวดที่ได้มาตรฐานจะจัดผ้าเช็ดตัวสะอาดไว้ในให้อย่างน้อย >5-6> > >ผืน> > > จากนั้นก็จะพาแขกไปนอนบนเตียง> > >> > > >หรือแขกจะเลือกสูบบุหรี่หรือดื่มเบียร์รอขณะที่หมอนวดกับไปอาบน้ำให้ตัวเองเพื่อความสดชื่นและให้>แน่> >ใจว่าตัวเองสะอาดหมดจดก่อนที่จะให้บริการขั้นต่อไป> > >> > > เมื่ออาบน้ำล้างคราบไคลให้กับตัวเองจนหมดจดแล้ว หมอนวนจะหรี่ไฟ> > >หรีโทรทัศน์> > > >(หรือปิดเสียง)บางคนที่ขึ้อายหน่อยอาจหรี่ไฟตั้งแต่ก่อนลงอ่างแล้วก็มี> > > จากนั้นก็จะชวนแขกขึ้นเตียง กรณีที่แขกนั่ง> > >ลืมอธิบายไปหน่อยเรื่องห้อง> > > ห้องธรรมดาส่วนใหญ่จะประกอบด้วยส่วนเปียกและส่วนแห้ง> > >เป็นห้องที่มิดชิด> > >> > > >บางแห่งอาจเจาะรูไว้เพื่อให้แม่บ้านประจำชั้นแอบดูความประพฤติของผู้ใช้ห้องด้วยก็ได้> > > ส่วนเปียกจะมีอ่างอาบน้ำและบริเวณหน้าอ่างสำหรับกิจกรรมบีคอส> > > ส่วนแห้งจะปูพรมทั้งหมดและเป็นห้องปรับอากาศ> > > เครื่องแต่งห้องอย่างน้อยจะมีเก้าอี้หรือโซฟา สองตัวกับโต๊ะกาแฟ> > > สุดท้ายคือเตียงที่ส่วนใหญ่จะเป็นขนาดคิงไซส์พร้อมหมอนสองใบ> > > เตียงนี้มีหลายรูปแบบ ทั้งเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าธรรมดา> > >หรือเป็นทรงกลม> > > ก็มี> > >> > >> > > >ส่วนประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งซึ่งจะขาดเสียมิได้คือระจกบนฝ้าเพดานซึ่งสะท้อนภาพบนเตียงอย่าง>ชัด> >เจน> > >> > > >ที่เคยได้ยินมาแต่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันคือบางแห่งจะมีบริการพิเศษสำหรับแขกที่ชอบดู> > >> > > >โดยจะจัดเป็นห้องเฉพาะในชั้นถัดไปที่จะมีช่องสามารถมองผ่านกระจกด้านเดียวที่อยู่บนฝ้าของห้อง>ชั้น> >ล่างได้ด้วย> > >> > >> > > เมื่อขึ้นเตียงแล้วถ้าแขกไม่เริ่มบุกหมอนวดจะเป็นฝ่ายบุก> > > อาจเริ่มจากการค่อย ๆ บีบนวดแข้งขาให้กับแขก> > > หลังจากนั้นก็เริ่มกระบวนการลูบไล้ ดูดนม ดูดจู๋> > > จนแขกเริ่มมีอารมณ์เต็มที่จะใส่ปลอกให้กับแขกอย่างนุ่มนวล> > > แล้วจึงเริ่มกระบวนการร่วมเพศ ถ้าสังเกตให้ดี> > > หมอนวดส่วนใหญ่จะพยายามทำให้กับแขกโดยหมออยู่ข้างบน> > >เหตุเพราะด้วยท่านี้> > > ตัวหมอนวดเองสามารถควบคุมจังหวะ ความเร็วและความแรงได้> > > อีกประการหนึ่งคือสามารถทำให้แขกเสร็จเร็ว และ> > > ทำให้มือแขกไม่สามารถจับนมหมอ> ได้สะดวก> > >> > > >หมอนวนส่วนใหญ่จะหวงนมเนื่องจากกลัวเสียทรงจะยอมให้จับหรือดูดบ้างพอเป็นพิธี> > > ที่หวังจะไปบี้ไปขย้ำคงยาก> > >> > > อย่าลืมว่านวดที่ฝีมือดี ๆ ในช่วงเศรษฐกิจดี ๆ >จะทำงานโดยเฉลี่ยวันละ> > >3-4> > > รอบ ในช่วง 14.00 น. - 24.00 น. ของแต่ละวัน> > >เดือนหนึ่งจะหยุดได้ประมาณ 6> > > วันเพื่อพักฟื้นซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วงที่มีรอบเดือน> > > หมายถึงหมอนวดพวกนี้ต้องผสมพันธ์กับแขกโดยเฉลี่ย 70 ครั้งต่อเดือน> > > ซึ่งเท่ากันอัตราเฉลี่ยของการมีเพศสัมพันธ์ของคนไทยต่อ 1 ปี >ดังนั้น> > > จึงต้องระวังรักษารูปร่างของตนตามสมควร> > > เพื่อให้อายุใช้งานและหาเงินยืนยาวก่อนที่จะโดนลดชั้นไปในที่สุด> > >> > > กระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นจะใช้เวลาเฉลี่ยไม่เกิน 1> > > ชั่วโมงครึ่ง> > >เมื่อเสร็จกิจแล้วจะมีเวลาให้แขกนอนอ้อยอิ่งได้อีกพักใหญ่ ๆ> > > ให้สังเกตได้จากหมอนวด> > > หากเห็นหมอนวดเริ่มแต่งหน้าทาคิ้วแสดงว่าใกล้หมดเวลาแล้ว> > > ลุกไปล้างเนื้อล้างตัวและแต่งตัวได้> > >ข้อควรระวังในที่นี้คืออย่าเผลอหลับ> > > ถ้าเจอหมดนวดมีคุณธรรมปลุกก็ดีไป> > >> > >แต่ถ้าหมอไม่ปลุกโดยอ้างว่ากลัวว่าจะรบกวนแล้วละก็คุณอาจต้องจากดับเบิ้ล> > > หรือ ทริปเปิ้ล ก็ได้> > >เมื่อแต่งตัวเรียบร้อยหากจะทิปหมอนวดให้ทิปในช่วงนี้> > > อัตราทิปโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 100-500 >ร้อยขึ้นอยู่กับสถานที่และบริการ> > > ถามว่าจำเป็นต้องทิปหรือไม่ >ตอบว่าไม่จำเป็นถ้าไม่กลัวถูกด่าลับหลัง> > > บางแห่งหมอนวดอาจต้องทิปแม่บ้านด้วยประมาณ 50-100 บาท> > > ถ้าแขกใจดีจะออกให้ก็ไม่ขัดข้อง> > >> > >> > > >ค่าชั่วโมงนั้นหมอนวดจะพาแขกไปจ่ายที่เค้าเตอร์ที่รับเบอร์ห้องครั้งแรกนั่นแหล่ะ> > > เมื่อจ่ายเงินเสร็จก็กลับบ้านได้ >หมอนวดจะตามมาส่งพร้อมกับอวยพรว่า> > > "โชคดีนะพี่"> > >

Comments: แสดงความคิดเห็น

This page is powered by Blogger. Isn't yours?