<$BlogRSDUrl$>

วันอาทิตย์, กันยายน 26, 2547

สังคมและการเมือง

@ทำไมนายกอยากขายไฟฟ้าจัง

บอกให้ก็ได้นายกมีบริษัทในตลาดหุ้นที่มีมูลค่าตลาดรวมกันแล้ว 3 แสน 5 หมื่นล้านบาท คือ advance กับ shinw ไม่เชื่อไปดูที่ http://65.54.187.250/cgi-bin/linkrd?_lang=EN&lah=7242f986d3d7a526382d0c4ff0fcc8c1&lat=1093857916&hm___action=http%3a%2f%2fwww%2etaladhoon%2ecom%2f แล้วคลิ๊กไปที่ get ready ตามด้วย คลิ๊กที่ M-cap

ถ้าไฟฟ้าเข้าตลาดหุ้น แล้วตลาดบูม ดัชนีหุ้นขึ้นไปจาก 720 จุดซัก 20% มูลค่าบริษัทของนายกก็จะขึ้นไปอีก 20% ประมาณว่า 20% ของ 3.5 แสนล้านก็เท่ากับ 7 หมื่นล้าน! เป็นไงไล่ออกให้หมดผู้บริหาร กฟผ อยากมาขวางทางรวยทำไม? นายกบอกกระจายหุ้นไฟฟ้า รัฐบาลถือเกิน 50% ถามว่าจริงหรือ ตอบว่าจริงครับ แต่นายกพูดไม่หมด...คือ 50% แค่ปีเดียว รู้ได้อย่างไรครับ ก็ตอนนี้บริษัทผลิตไฟฟ้า (egcomp) รัฐบาลถือหุ้นแค่ 25% ไม่เชื่อไปดูที่ http://www.settrade.com/sims_majorShares.jsp?txtBrokerId=IPO&securityNam แล้วที่ร้ายคือ...ผู้ถือหุ้นอันดับสองคือไชน่าไลท์ CLP นั่นแหละต่างชาติชัดๆ บอกผู้จัดการคนไทยห่วย ไล่กลับกฟผแล้ว

วิธีหาเงินของทักษิณ

1. ให้พานทองแท้ซื้อหุ้นทหารไทยที่ 3.50 บาท 150 ล้านหุ้นแล้วประกาศเพิ่มทุน นายกบอกไม่มีใครซื้อ จะให้กองทุนวายุภักษ์ซื้อ ตอนนี้ราคาอยู่แถว 5 บาท ฟาดไป 225 ล้าน

2. ให้เงินไตรภพไปซื้อ iTV 150 ล้านหุ้นที่ราคา 10 บาท แล้วประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่า นายกซื้อ iTV ราคากระเด็นไป 30บาท ได้ไป 3 พันล้าน ตอนนี้ iTV จะเป็นยังไงก็ช่าง เพราะจริงๆไม่ใช่จะซื้อ แต่เป็นการปั่นหุ้น คิดดูแล้วกันเอานายทุนมาบริหารประเทศ ประชาชนเกลียดคนไฟฟ้า27000 คน แต่แปลกไม่มีใครอิจฉานายกบ้าง พ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ไปเรียนเมืองนอกก็ทุนกรมตำรวจ แต่พอมีความรู้ขึ้นมาก็ลาออกไปทำธุรกิจ
? ใส่นาฬิกาเรือนละ 1 ล้าน ?ซื้อรถ Ferrari คันละ 20 ล้านให้ลูก ?สร้างคฤหาสน์รับจอร์จ บุชมูลค่า 500 ล้าน ?ลูกปิดเทอมพาไป shopping ที่ห้างแฮร์รอดประเทศอังกฤษ

ความลับสุดยอดทักษิณกำลังทำอะไรกับรัฐวิสาหกิจ ไฟฟ้าได้อภิสิทธิ์ขายไฟได้แต่เพียงผู้เดียว การสื่อสารแห่งประเทศไทยได้อภิสิทธิ์เชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์ไปต่างประเทศแต่เพียงผู้เดียว
ทักษิณปัจุบันที่รวยได้เพราะได้สัมปทานมือถือจากองค์การโทรศัพท์ แต่ถ้ามือถือโทรออกต่างประเทศ ค่าโทรจะได้การสื่อสาร ทีนี้จะทำยังไงละก็แปรรูปมันให้หมด เพื่ออภิสิทธิ์ทุกอย่างจะได้ถูกยกเลิก แล้วบอกประชาชนว่าทุกอย่างต้องเปิดเสรีหมด

ผู้ว่า กฟผ.บอกจะทำอาเซียนกริด เฉลยเลยนายกไปหุ้นกับขิ่นยุ้นที่พม่า ทำมือถือแล้วต่อไปก็จะลงทุนพัฒนาแม่น้ำสาละวิน โดยสร้างเขื่อนแล้วให้ผู้ว่า กฟผ สร้างสายส่งไปรับไฟ มาขายไฟจากเขื่อนราคาถูก ชาวบ้านจะได้ใช้ไฟราคาถูกเหมือนสายการบินต้นทุนต่ำไง แต่จริงๆ การไฟฟ้าก็ทำได้ แต่ไฟฟ้าทำเงินเข้ารัฐ
แต่ถ้าแปรรูปซะอะไรอะไรมันก็ง่ายขึ้น แถมอีกนิดบนเสาส่งไฟฟ้ามีเส้นใยแก้วสามารถเชื่อมโยงมือถือของนายกไปเชื่อมกับของตัวเองที่พม่าแล้วใช้พม่าเป็น hub เชื่อมโยงไปทั่วโลกไม่ต้องจ่ายเงินให้ กสท.ไง

รวย รวย แล้วก็จะรวยต่อไป เรื่องต่อไปนี้ insider จริง ปัจุบันผู้ว่า กฟผ. อนุมัติให้ติดตั้งใยแก้วนำแสงในสายส่งไฟฟ้าทุกเส้น เพื่อเชื่อมโยงใยแก้วให้ครอบคลุมทุกจังหวัดแล้ว ที่ร้ายตอนนี้มีเอกชนมาเช่าใช้แล้วนะครับก็ไม่ใช่ใครครับบริษัท TA Orange ผมถามหน่อยองค์การโทรศัพท์ไปอยู่ที่ไหน อภิสิทธิ์ที่คุณมีถูกละเมิดคุณไปอยู่ ที่ไหนครับ
“ไอ้หน้าเหลี่ยม”

อ้างความรวย: รวยอยู่แล้ว ไม่โกงหรอก

อ้างเมีย: ไม่ใช่ของผม (เงิน+หุ้น) ของเมียผม

อ้างสื่อ: สื่อลงข่าวครึกโครม คนเลยไม่กล้ากินไก่ อ้างนโยบายรัฐ: แปลงสินทรัพย์เป็นทุน แปลงเป็นทุนพวกเราซะ รายชื่อผู้ถือหุ้น ปตท มากสุดซึ่งล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับพรรคไทยรักไทยทั้งสิ้น

1. นายทวีฉัตร จุฬารกูร - หลานของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ (เลขาธิการพรรคไทยรักไทย) 2.2 ล้านหุ้น เอาเงินมาจากไหนเงินใครกันแน่ ซื้อแทนใครรึเปล่า)

2. นายประยุทธ มหากิจศิริ - กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 2 ล้านหุ้น

3. นายดิษฐพล ดำรงรัตน์ - ญาติ นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ สส.กทม. พรรคไทยรักไทย 1.7 ล้านหุ้น

4. นายสุธี มีนชัยนันท์ - ญาตินายวิชาญ มีนชัยนันท์สส. กทม. พรรคไทยรักไทย 3 แสนหุ้น จริงๆแล้ว
6 อันดับแรกนั้นได้หุ้นทั้งหมด 16 ล้านหุ้น มูลค่าขณะนั้นมีมูลค่าเพียง 385 ล้านบาท แต่ 2 ปีถัดมามีมูลค่าถึง 1,377 ล้านบาทแล้ว ดูแค่นี้ก็น่าจะรู้แล้วว่าทำไม ทรท ถึงอยากนำ กฟผ. เข้าตลาดหุ้นนัก แล้วนี่ก็คือเหตุผลที่นายกไม่กล้าเผชิญหน้ากับกลุ่มประท้วง แบบนี้ไม่เรียกว่าขายชาติแล้วจะขายอะไรครับ

แหล่งข้อมูล: นสพ. ไทยรัฐ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2547 หน้า 19 หัวข้อ “ทักษิณกร้าว” คนโง่เท่านั้นที่บอกว่า กฟผ. ขาดทุน บ้ารึเปล่า กำไรทุกปี แล้วยังจะแปรรูปทำไม อยากให้เศรษฐีนามสกุลเดิมๆ มาเป็นเจ้าของ มาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่นักใช่ไหม ดู!อย่าง ปตท.ซิ คนทั่วไปมีสิทธิได้ซื้อไหม ไปดูอย่าง iTV ซิสัญญาที่เซ็นเองกับมือ ทำขาดทุนนิดหน่อย ยังไม่ยอมเลย นับประสาอะไรกับกฟผ.ของประชาชน เพื่อประชาชนแท้ๆ ถ้าเอามาขายเป็นหุ้น (ก็รู้อยู่แล้วว่าใครจะซื้อ) ทำแล้วขาดทุนหรือเสมอตัวมันจะยอมหรือ ดูอย่างมือถือของแม่งสิ!!...เคยลดค่าบริการลงไหม แสนแพง โทรเกินหน่อยก็ตัด อีกหน่อยคงมีวงเงินการใช้ไฟฟ้ามาใช้เหมือนมือถือแน่ แล้วก็มีบริการเสริมมาหลอก เงินคนจนๆอีกเยอะ ตลอดมารัฐต้องเอาเงินภาษีประชาชนไปสร้างโรงไฟฟ้า สร้างเขื่อน ลงทุนไปมากมายหลายแสนล้าน กว่าจะเป็นทุกวันนี้ จะเอามาขายกันง่ายๆเนี้ยนะ

ช่วยส่งเมล์นี้ต่อไป เพื่อร่วมกันขัดค้าน


@ เอกยุทธvsทักษิณฟังไว้ ผู้เขียน: รู้ทัน

•• วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำลังเสมือน ติดกับดัก, ตกหลุมพรางหากไม่เลิกคิดว่า ขบวนต่อต้านระบอบทักษิณ นั้นเป็น องค์กรจัดตั้งที่มี รูปแบบ, แผนงาน, ผู้นำแล้วก็พาลออกมาฟาดงวงฟาดงาอาละวาดกับคนระดับ เอกยุทธ อัญชันบุตร,ประพันธ์ คูณมี (หรือแม้แต่ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ) รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งสมญาให้พวกเขาอย่าง สนุกปาก, คะนองปาก ชนิดที่ไม่ควรหลุดออกจากปากผู้นำประเทศ เลย •• รวมทั้ง การชี้นำ ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรให้องค์กรที่ใช้ กฎหมายพิเศษ อย่าง ป.ป.ง. –สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินใช้กฎหมายที่เป็น ข้อยกเว้นของหลักสิทธิมนุษยชน ออกมาอย่างปราศจากความระมัดระวังอย่างถึงที่สุดนั้นมันเท่ากับเปลือยตนเอง ให้ผู้คนทั้งแผ่นดินให้พินิจพิเคราะห์วัฒนธรรมในการใช้อำนาจของตนเอง อย่าง ล่อนจ้อน ครั้งสำคัญ •• และถ้า เอกยุทธ อัญชันบุตร คนนี้ เล่นเป็น,เตรียมการไว้พร้อม วัฒนธรรมการใช้อำนาจเฉกเช่นนี้ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็อาจถูกนำไป เปิดโปง, ร้องทุกข์ต่อองค์การระหว่างประเทศระดับ สหประชาชาติ,ศาลอาญาระหว่างประเทศ ได้ไม่ยาก •• แม้ในอดีต เอกยุทธ อัญชันบุตร จะเคย ต้องข้อกล่าวหา แต่ ณวันนี้เขากำลังทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน,ร้องเรียนให้รัฐดำเนินการต่อขบวนการฉ้อโกงประชาชนไม่ว่าสิ่งที่เขา กล่าวหา ออกมาจะ ถูก, ผิด ก็เป็น หน้าที่ของ รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย ที่จะต้อง ตอบสนองด้วยการเริ่มต้น รับฟัง, สอบสวน ไม่ใช่ทำนอกหน้าที่ด้วยการชี้นำประชาชนว่าคนที่กำลังทำหน้าที่เตือนภัยให้แก่สังคม(ไม่ว่าจะมีเจตนาเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรหรือไม่)คนนั้นไม่น่าเชื่อถือ หรือเลยเถิดไป กล่าวหา และ พิพากษาแทนศาลเลยว่าเขาเป็น อาชญากร คนที่ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีจะต้องเข้าใจเป็นพื้นฐานว่า ณ นาทีนี้ เอกยุทธ อัญชันบุตรคนนี้ ไม่ใช่อาชญากร ทั้งนี้เพราะไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดโดยศาลยุติธรรมว่ากระทำความผิดอาญาส่วน คำพิพากษาท างสังคม, เครดิตทางสังคมจะเป็นอย่างไรนั้นหากท่านเชื่อว่า สังคมฉลาดพอก็ไม่จำเป็นจะต้อง ชี้นำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชี้นำอย่างน่าเกลียด จนเกือบจะถึงขั้นเสียบุคลิกภาพแห่งความเป็นนายกรัฐมนตรีใB9ระบอบประชาธิปไตยเพราะการกระทำเช่นนี้อาจพิจารณาได้ว่าขัดขวางการรับรู้ข่าวสารของประชาชน,ขัดขวางการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อประชาชนโดยอิสระเป็นการกระทำที่ ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC –International Criminal Court เห็นว่าเป็นการระทำที่เข้าข่ายอาชญากรรมประเภทหนึ่ง กล่าวคือประเภทที่เรียกว่าอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หรือ Crime against Humanityอย่าลืมว่า ICCนี้ประเทศไทยภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินของท่านเองประเทศนี้ยอมตนเข้าผูกพัน โดย ลงนามในสนธิสัญญาเมื่อ วันที่ 2 ตุลาคม2543 แม้ว่าจนถึงวันนี้จะ ยังไม่ได้ให้สัตยาบัน ก็หาได้ทำให้พ้นภาระผูกพัน ถ้าขืนยังดันทุรังจะใช้พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542เข้าดำเนินการก็อาจจะต้อง ตามทรัพย์ ไปถึง อังกฤษ และจะต้องขอความร่วมมือจากรัฐบาลอังกฤษแน่นอนว่าผู้ถูกตามราวีที่เต็มไปด้วยลูกบ้า คนนี้จะต้องต่อสู้คดี ดีไม่ดี “เซี่ยงเส้าหลง” ว่าผู้ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีประเทศไทย อาจจะตกเป็น จำเลย ได้ (โดยเซี่ยงเส้าหลง)

@กูไม่โง่ > >>กูไม่โง่ ! สัญญาณ MMS ถึง\"ทักษิณ\"

จาก\"คนมีรถ-บ้านมีรั้ว\" โดยสรกล อดุลยานนท์ > >>จาก มติชน สุดสัปดาห์ วันที่ 03 กันยายน พ.ศ. 2547

> >> >>>ทันทีที่การจราจรเริ่มติดขัดทุกถนนในกรุงเทพมหานครในช่วงสายต่อเนื่องถึงช่วงบ่ายในวันที่ > >>29 สิงหาคม ทั้งที่เป็นวันอาทิตย์

> >> > >>ทีมงานของ \"ปวีณา หงสกุล\" ก็เริ่มหนาวๆ ร้อนๆ เพราะแสดงว่าคน กทม.มาใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกันมากเป็นประวัติการณ์ > >> > >>ทีมงานของ \"ปวีณา\" นั้นมีสมมุติฐานว่าคนกรุงจะมาใช้สิทธิน้อย ดังนั้นหากทำคะแนนได้ 600,000 ก็มีสิทธินั่งเก้าอี้เบอร์ 1ที่ทำเนียบเสาชิงช้าและเธอก็ทำสำเร็จ

> >> > >>แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือคนกรุงมาใช้สิทธิเป็นจำนวนมากและที่สำคัญสัญญาณ \"รถติด\" บ่งบอกให้รู้ว่าคนกลุ่ม\"บ้านมีรั้ว-คนมีรถ\" ออกมาแสดงพลัง > >> > >>ทั้งที่เชื่อกันว่าคนกลุ่มนี้เป็นคนมีความรู้ มีความเห็น > >>แต่ไม่ยอมใช้สิทธิเลือกตั้ง > >> > >>ทำตัวเป็น \"พลังเงียบ\" มาโดยตลอด > >> > >>และหากพิจารณาดูคะแนนแต่ละเขต ยิ่งชัดเจนว่ากลุ่มคนมีเงิน > >>ระดับชนชั้นกลางขึ้นไปส่วนใหญ่ลงคะแนนให้ \"อภิรักษ์ โกษะโยธิน\"

> >> > >>เพราะเขตที่คะแนนของ \"อภิรักษ์\" ชนะ \"ปวีณา\" เกินกว่าเท่าตัว คือพระนคร, > >>ป้อมปราบศัตรูพ่าย, ปทุมวัน, สัมพันธวงศ์, บางรัก, ยานนาวา, สาทร,บางคอแหลม, > >>วัฒนา ฯลฯ > >> > >>ล้วนเป็นเขตธุรกิจทั้งสิ้น > >> > >>ทั้งเขตธุรกิจเก่าอย่าง พระนคร, ป้อมปราบศัตรูพ่าย ฯลฯ จนถึง > >>เขตธุรกิจใหม่อย่าง บางรัก, ยานนาวา, สาธร, วัฒนา ฯลฯ > >> > >>\"อภิรักษ์\" ทิ้ง \"ปวีณา\" กระจุย > >> > >>นี่คือ สัญญาณที่ไม่ดีนัก > >> > >>ไม่ใช่สำหรับ \"ปวีณา\" > >> > >>แต่เป็น \"ทักษิณ ชินวัตร\" > >> > >> > >> > >>ไม่ว่า \"ทักษิณ\" จะยืนยันว่าพรรคไทยรักไทยไม่ได้ส่งผู้สมัคร > >> > >>แต่ทุกสัญญาณ ทุกการเคลื่อนไหวในช่วงการหาเสียงที่ผ่านมา > >>คนกรุงเทพมหานครที่อ่านหนังสือพิมพ์ ฟังวิทยุ หรือดูโทรทัศน์

> >> > >>ทุกคนอ่านออกว่าพรรคไทยรักไทยหนุน \"ปวีณา\" > >> > >>ไม่ว่าการส่ง \"เอสซี แมทบ็อกซ์\" เอเยนซี่โฆษณาในเครือ \"ชินคอร์ป\"มาทำโฆษณาให้ > >> > >>หรือการบัญชาการ ส.ก. และ ส.ข. ให้ช่วย \"ปวีณา\" > >> > >>การใช้กลยุทธ์ \"พูดให้ชัด แต่เตะไม่ถึง\" ของ \"ทักษิณ\" > >>ทั้งเรื่องการทำนายผลแบบทีเล่นทีจริงวาผู้ว่าฯ น่าจะเป็น \"ผู้หญิง\" > >>เหมือนนักยกน้ำหนักเหรียญทองของไทย > >> > >>รวมทั้งการประชุมเรื่องการจราจรก่อนการเลือกตั้งไม่ถึงสัปดาห์ และตั้ง

พล.ต.ต.พงศพัศ พงษ์เจริญ ว่าที่รองผู้ว่าฯ ทีม \"ปวีณา\" > >>เป็นคนประสานงานเรื่องจราจร > >> > >>ตามมาด้วยการขึ้นรถไฟฟ้า ลงเรือ เพื่อดูปัญหาจราจรในวันเสาร์ที่ 28สิงหาคม > >>ก่อนการเลือกตั้งเพียง 1 วัน > >> > >>ส่งสัญญาณให้รู้ว่าปัญหาการจราจรเป็นเรื่องระดับรัฐบาล ผู้ว่าฯ กทม.จะต้องประสานงานกับรัฐบาลจึงจะแก้ปัญหาได้สำเร็จ > >> > >>ถ้าเลือกฝ่ายค้านเข้ามา ปัญหาจราจรก็แก้ไขได้ยาก > >> > >>ยิ่ง \"ทักษิณ\" ผูกตัวเองกับ \"ปวีณา\" มากเท่าไร > >>เสียงคนกรุงส่วนหนึ่งที่ไม่พอใจ \"ทักษิณ\"ในหลายเรื่องก็ยิ่งเทคะแนนให้ \"อภิรักษ์\"


> >> > >>คนกลุ่มนี้ไม่ได้รัก \"ประชาธิปัตย์\" ไม่ได้ชอบ \"อภิรักษ์\" > >> > >>แต่ต้องการส่งสัญญาณความไม่พอใจ \"ทักษิณ\" > >> > >>และแสดงความฉลาดแบบ \"รู้ทันทักษิณ\" > >> > >>ด้วยการเลือก \"อภิรักษ์\" > >> > >>เพราะขืนเป็น \"พลังเงียบ\" ต่อไป และ \"ปวีณา\" ชนะเลือกตั้งก็ยิ่งทำให้ > >>\"ทักษิณ\" เชื่อว่าสิ่งที่ทำมาโดยตลอดถูกต้อง > >> > >>และคนกรุงไม่มีใครฉลาดเท่าทันเกมการเมืองของเขา > >> > >>การส่งสัญญาณแสดง \"ความฉลาด\" จึงต้องทำให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม > >> >>>ที่น่าสนใจก็คือกลุ่มคนที่แสดงพลังกลุ่มนี้ล้วนแต่เป็นกลุ่มชนชั้นกลางระดับ > >>\"คนมีรถ-บ้านมีรั้ว\" > >> > >>คนมีสตางค์กลุ่มนี้ซับซ้อนกว่าที่ \"ทักษิณ\" ประเมินมากนัก > >> > >>อย่าคิดว่าเพียงแค่เศรษฐกิจดีขึ้น เงินในกระเป๋าเพิ่ม > >>จะทำให้เขาตัดสินใจเลือก \"ทักษิณ\"

> >> > >>จุดเริ่มต้น \"ความเสื่อมถอย\"ในสายตาคนกรุงนั้นเริ่มต้นจากคำประกาศเรื่อง > >>400 เสียงของ \"ทักษิณ\" > >> > >>ตามมาด้วยข่าวเรื่องการขยายตัวของกลุ่มชินคอร์ปในทุกทิศทาง > >> > >>มีข่าวเรื่องผลประโยชน์ซับซ้อน > >> > >>\"คนกรุง\" ที่ฉลาดไม่มีใครยอมให้พรรคการเมืองไหนมีอำนาจเบ็ดเสร็จขนาดนี้ > >> > >>เป็นธรรมดาที่ \"คนฉลาด\" มักขี้ระแวง > >> > >>ดังนั้น ถ้าสามารถทำให้ฝันเป็นจริงได้ คนกรุงที่ \"ฉลาด\" > >>ส่วนใหญ่คงจะไม่ยอมให้พรรคไทยรักไทยได้ ส.ส. ถึง 400 เสียง > >> > >>ดีที่สุดคือ 250-300 ต้นๆ > >> > >>คือ ยังอยากให้ \"ทักษิณ\" เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป > >>เพราะไม่ว่าจะเทียบเคียงในมุมไหน \"ทักษิณ\" ก็ยังเหนือกว่า \"บัญญัติบรรทัดฐาน\" > >> > >>300 เสียงทำให้การเมืองมีเสถียรภาพ แต่ยังมีการถ่วงดุลอำนาจ

> >> > >>เพราะที่ผ่านมาทุกครั้งที่ \"ทักษิณ\" มีอำนาจไม่มากนัก > >>เขามักจะน่ารักและเกรงใจคนอื่น

> >> > >>แต่ถ้าเขามีอำนาจเบ็ดเสร็จเมื่อไร > >> > >>\"ทักษิณ\" จะเปลี๋ยนไปทันที > >> > >>ดังนั้น >>>เมื่อพรรคไทยรักไทยแสดงความมั่นใจว่าพื้นที่ต่างจังหวัดพรรคไทยรักไทยจะชนะขาดลอยแล้ว > >> > >>\"คนกรุง\" ก็อาจจะเลือกแสดงพลังเพื่อคานอำนาจ \"ทักษิณ\" > >>แต่คนต่างหวัดบางกลุ่มหรือคนที่เทิดทูนเงินของ > >> > >>ทักษิณเท่านั้นที่ตกเป็นเหยื่อ

> >> > >>โดยคนกรุงที่ฉลาด เริ่มต้นซ้อมจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. > >> > >>ก่อนจะแสดงพลังจริงในการเลือกตั้งใหญ่ต้นปี 2548 > >> >>>มีแต่คนต่างหวัดบางกลุ่มหรือคนที่เทิดทูนเงินของทักษิณเท่านั้นที่ตกเป็นเหยื่อ



@ทุกข์ของคนฝั่ง ธน>


-----ข้อความต้นฉบับ-----> ส่งเมื่อ: 14 กันยายน 2547 9:23> ถึง: Undisclosed-Recipient:;> เรื่อง: ทุกข์ของคนฝั่งธน> > ทุกข์ของคนฝั่งธน เมื่อวันจันทร์ที่ผ่าน คนกรุงเจอกับฝนที่ตกเข้ามา> ที่สถาณีรถไฟฟ้าสุรศักด์> มีคนกลุ่มหนึ่งต้องยืนรักษาแถวเพื่อข้ามไปยังฝั่งธนโดยรถไฟฟ้า BTS ที่จัดให้> ทั้งที่ฝนตกกรหนำ เพราะอะไรหรือ เราเลือกไม่ได้ แต่> ทำไมหรือรัฐไม่สร้างให้รถไฟฟ้าไปถึงฝั่งธน ทำไมหรืองบไม่พอ> ทำไมหรือภาษีที่เก็บได้ในกรุงเทพไมสามารถทำให้คนกรุงเทพ ได้รับความสะดวก > หากรัฐบาลสามารถจัดสร้างได้ รับรองคะแนนเสียงได้มาอีกมาก> หรือต้องรอจนได้ก่อน ต้องมีคำมั่นสัญญา หรือต้องให้น้องอุ๋งอิ๋ง> มารอรถของBTSกับประชาชนตาดำ เราไม่ได้อยากเกิดมาเป็นคนชั้นกลาง> แต่เราขอในนามสิทธิของเราที่เราน่าจะได้จากการจ่ายภาษีให้คุณ ถ้าน้องอุ๋งอิ๋ง> เมื่อเพื่อนที่อยู่ฝั่งธนจะรับรู้จากเพื่อนว่า นรกของคนกรุงเทพคือการต้องรอรถ> และ รถติดบนถนน ไม่เหมือนผู้ใหญ่บางคนที่ไปไหนมาไหนรถไม่เคยติดเพราะมีรถนำทางให้สะดวกดีครับ> ผมคนหนึ่งที่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลที่เข้ามาเป็นรัฐบาลที่ทำ> และกล้าเปลี่ยนแปลง > ทำไมหรือถ้าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ทำให้ท่านได้ผลประโยชน์ด้วย และคนในกรุงเทพ> ได้ประโยชน์> ผมขอยืนยันว่าเสียงอีกหลายล้านเสียงเทใจให้ผู้นำคนนี้> > จดหมายนี้ ขอฝากผ่านไปยังน้องอุ๋งอิ๋ง> ที่สามารถบอกกล่าวกับคนที่มีความรักเต็มร้อย > ผมเชื่อว่าน้องเขาเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี และจะเป็นหัวใจของพ่อแม่ > ช่วยคนกรุงเทพด้วย > จากหนึ่งเสียงครับ> รบกวนด้วยหากจดหมายฉบับดี มีคุณค่าช่วยกันส่งต่อเพื่อให้ถึงคนที่มีอำนาจ> เสียงที่เราเรียก จะไปยังสิ่งที่เราต้องการ


: Fw: กทม. ก่อสร้างสะพาน 17 แห่ง ตั้งแต่ วันที่ 18 ก.ย. นี้ ผ่านแถวบ้านใครจะได้ทำ ใจเรื่องรถติด คนกรุงต้องทำใจฝ่าวิกฤติจราจร 1 ปี ผุดสะพานข้ามแยกรวดเดียว 17 แห่ง?ตั้งแต่ วันที่ 18 ก.ย. นี้ กรุงเทพมหานคร(กทม.)จะเริ่มลงมือก่อสร้างสะพานข้ามทางแยกถนนพระรามที่?3-สาธุประดิษฐ์ เป็นการนำร่องก่อนที่จะตะลุยสร้างสะพานข้ามทางแยกอีก 16 แห่งพร้อมกันรวดเดียว เพื่อแก้ไขปัญหา จราจรในกรุงเทพฯ กทม. ก่อสร้างสะพาน 17 แห่งตามมติของคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทาง บก(คจร.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานซึ่งเป็นมาตรการระยะสั้นในการแก้ปัญหารองจากการแก้ปัญห าระยะยาวที่ทุ่มเงินหลายแสนล้านเพื่อสร้างระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่ต้องใช้เวลาอีกหลายปีสะพาน 17 แห่งใช้งบก่อสร้างประมาณ 8,000 ล้านบาท?ประกอบด้วย 1.สะพานข้ามทางแยกถนนพระรามที่ 3-ถนนสาธุประดิษฐ์ มีขนาด 2 ช่องทางไป-กลับ?มี?2 สะพาน กว้าง 8.30 เมตร ยาว 720 เมตร 2.สะพานข้ามทางแยกถนนพระรามที่ 3-ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ขนาด 2 ช่อง มี 2 สะพาน กว้าง 8.30 เมตร ยาว 645 เมตร 3.สะพานข้ามทางแยกถนนพระรามที่ 3-ถนนเจริญราษฎร์ ขนาด 2 ช่อง ยาว?630 เมตร 4.สะพานข้ามทางแยกถนนพระรามที่ 3-ถนนรัชดาภิเษก(ใต้สะพานพระรามที่?9) ขนาด?2 ช่อง มี 2 สะพาน กว้าง 8.30 เมตร ยาว 684 เมตร 5.สะพานข้ามทางแยกถนนพระรามที่ 3-ถนนสาธุประดิษฐ์ ตัดใหม่-ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ขนาด 2 ช่อง มี 2 สะพาน กว้าง 8.30 เมตร ยาว 1,362 เมตร **หมายเหตุ ตัวสะพานอยู่ตามแนวถนนพระรามที่ 3 ทั้งหมด ที่ต้องมี 2 สะพานเพราะต้องขนาบคูน้ำ ในเกาะกลางถนนพระรามที่ 3 6.สะพานข้ามแยกถนนบางขุนเทียน-ถนนพระรามที่ 2 ขนาด 4 ช่อง มี 1 สะพาน กว้าง 16.40 เมตร ยาว 664 เมตรตามแนวถนนบางขุนเทียน 7.สะพานข้ามแยกถนนฉลองกรุง-ถนนสุวินทวงศ์ ขนาด 3 ช่องมี 1 สะพาน ยาว 665 เมตรตาม แนวถนนฉลองกรุง 8.สะพานข้ามแยกถนนสุขสวัสดิ์-ถนนพระรามที่ 2 ขนาด 2 ช่อง มี 2 สะพาน กว้าง?8.30 เมตร ยาว 1,402 เมตรตามแนวถนนสุขสวัสดิ์ 9.สะพานข้ามแยกถนนพระรามที่ 4-ซอยสุขุมวิท42(กล้วยน้ำไท) ขนาด 2 ช่อง มี?1 สะพาน กว้าง 8.30 เมตร ยาว 660 เมตรตามแนวถนนพระรามที่ 4 10.สะพานข้ามแยกถนนพระรามที่ 4-ถนนเกษมราษฎร์-สุขุมวิท 26 ขนาด 2 ช่อง มี?1 สะพาน กว้าง 8.30 เมตร ยาว 662 เมตรตามแนวถนนพระรามที่4 11.สะพานข้ามแยกถนนดินแดง-ถนนประชาสงเคราะห์(โบสถ์แม่พระ) ขนาด 2 ช่องทาง?มี?1 สะพาน กว้าง 8.30 เมตร ยาว 533 เมตรตามแนวถนนดินแดง 12.สะพานข้ามแยกถนนราชวิถี-ถนนพระรามที่ 6 ขนาด 2 ช่องทาง มี 1 สะพาน กว้าง?8.30 เมตร ยาว 545 เมตรตามแนวถนนราชวิถี 13.สะพานข้ามแยกถนนศรีอยุธยา-ถนนพระรามที่ 6 ขนาด 4 ช่องมี 1 สะพาน?กว้าง 16.40 เมตร ยาว 465 เมตรตามแนวถนนศรีอยุธยา 14.สะพานข้ามแยกถนนศรีอยุธยา-ถนนพญาไท ขนาด 4 ช่อง มี 1 สะพาน กว้าง?16.40 เมตร ยาว 572 เมตรตามแนวถนนศรีอยุธยา 15.สะพานข้ามแยกถนนเอกชัย-ถนนบางบอน-ถนนบางขุนเทียน ขนาด 3 ช่อง มี?1 สะพาน กว้าง 11.55 เมตร ยาว 710 เมตรตามแนวถนนเอกชัย-บางบอน 16.การขยายสะพานลำสาลีให้ยาวขึ้นเพื่อข้ามแยกบ้านม้า 17.สะพานข้ามแยกลาดพร้าวซึ่งมีรูปแบบที่ซับซ้อนที่สุด โดยมี 3 สะพาน?สะพานแรกอยู่ในด้านถนน วิภาวดีขาเข้าเริ่มจากบริเวณหน้าสวนสมเด็จฯขนานโครงการโทลล์เวย์ ข้ามแยกลาดพร้าวไปลงหน้า เซนต์จอห์นและวิ่งทางราบเข้าช่องยูเทิร์นไปถนนพหลโยธินขาเข้าทางจตุจักร มีขนาด 2 ช่องทาง ส่วนอีก 2 สะพานอยู่ในด้านถนนวิภาวดีขาออก แต่ละสะพานมีขนาด 2 ช่องทางเริ่มจากหน้าตึกซัน เอสเตทวิ่งขนานโทลล์เวย์ตรงไปถนนวิภาวดีขาออกทางลงบริเวณหน้าปตท.ส่วนอีกที่มี ทางลงตรงบริเวณจุดกลับรถในช่องทางพื้นราบไปถนนพหลโยธินขาออกที่มุ่งหน้าเซ็นทรัล ในส่วนของ สะพานข้ามทางแยกถนนพระรามที่ 3-สาธุฯ ซึ่งเป็นสะพานแรกที่จะก่อสร้างนั้น กทม.ได้ร่วมประชุม กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจัดแผนการจราจรที่ชัดเจนแล้ว โดยจะปิดการจราจรบนถนนพระรามที่ 3 จากหน้าวัดดอกไม้ถึงคลองบางโพงพางใต้ด้านละ 2 ช่อง จากที่มีด้านละ 4 ช่องทางเพื่อทำการก่อ สร้างสะพาน ส่วนจุดอื่น ๆ ได้กำหนดแผนเบื้องต้นเสร็จแล้วเช่นกัน?แต่ก่อนก่อสร้างจะร่วมประชุมเพื่ อกำหนดรายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้ง โดยทั้ง17 สะพานจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 8-12 เดือนใช้โครงสร้างเหล็กซึ่งมีความรวดเร็วในการก่อสร้าง และเป็นไปตามมติ คจร. ที่ต้องสร้างให้ เสร็จภายใน 1 ปี สำหรับแผนการจัดจราจร ก่อนการก่อสร้าง?กทม.จะแจกแผ่นพับทางลัดให้ประชา ชนจัดทำป้ายเตือนและติดตั้งสัญญาณเตือนต่างๆให้ประชาชนระมัดระวังในการเดินทาง ส่วนการก่อ สร้างช่วงแรกต้องใช้เวลาย้ายสาธารณูปโภคประมาณ 3 เดือน จากนั้นจะเริ่มก่อสร้างงานสะพานซึ่ง ต้องกระทบกับการจราจรมากโดยยังคงพื้นผิวการจราจรให้ใช้ได้อย่างน้อยด้านละ?2 ช่องทาง หาก ต้องยกคานสะพานและปิดการจราจรจะทำในเวลากลางคืนตั้งแต่?22.00-05.00 น.และจัดเจ้าหน้าที่ มาคอยโบกรถในช่วงดังกล่าว นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ ผอ.สำนักงานออกแบบ สำนักการโยธา กล่าวว่า?หลังจากที่เริ่มก่อสร้างสะพานที่ทางแยกถนนพระรามที่ 3-สาธุฯ แล้วจากนั้นภายในเดือน ก.ย. จะทยอยสร้างสะพานตามแนวถนนพระรามที่ 3 ทั้งหมดและเดือน ต.ค. จะเริ่มในจุดอื่นๆก่อน ลงพื้นที่จะประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง เพื่อกำหนดแผนการจราจรให้ชัดเจนขึ้นและกำหนดว่า สะพานไหนจะเริ่มเมื่อใดสะพานอื่นๆ คงไม่มีปัญหามากเพราะอยู่นอกเมือง ที่อาจเป็นปัญหาคือ สะพานตามแนวถนนพระรามที่ 4 ตามแนวถนนศรีอยุธยาราชวิถี และดินแดง รวมทั้งที่แยกลาดพร้าว ซึ่งอาจจะกระทบกับการจราจรอย่างมากจะเริ่มลงมือต้นปี?2548 เพื่อรอให้การสร้างโครงการจตุรทิศ และสะพานข้ามแยกกำแพงเพชร 2 ที่หน้า อ.ต.ก. และการขยายถนนกำแพงเพชร 2 เสร็จเรียบ ร้อยก่อน เพื่อให้ประชาชนที่จะผ่านแยกลาดพร้าวเข้าไปใช้ถนนกำแพงเพชร 2 เพื่อออกทางรัชโยธิน แทนโดยเฉพาะที่แยกลาดพร้าวได้เตรียมแผนรองรับโดยการสร้างทางเลี่ยงเข้าบริเวณสวนจตุจักรซึ่งจ ะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน นายภัทรุตม์กล่าวต่อว่า เข้าใจว่าประชาชนจะได้รับผลกระทบแน่น อน?เพราะสร้างพร้อมกันถึง 17 สะพาน อย่างไรก็ตามหากทยอยทำจะเสียเวลามากกว่านี้และจะยิ่งมี ปัญหาและการก่อสร้างที่เรื้อรังจึงต้องสร้างพร้อมกันทีเดียว ซึ่งได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรี ยมรับมือเต็มที่


Comments: แสดงความคิดเห็น

This page is powered by Blogger. Isn't yours?